ภาคภาษาอังกฤษ English Version
บทความ บันทึกหัวใจแกร่ง (จบ) จากหนังสือชีวจิต




บทความ บันทึกหัวใจแกร่ง
จากหนังสือชีวจิต ฉบับที่ 231
16 พฤษภาคม 2551





บันทึกหัวใจแกร่ง
ด้วยแรงแห่งรัก (จบ)
ก้าวสู่ชัยชนะด้วยความเพียร


หลังจากที่โรส ได้ผ่านบททดสอบชีวิต
ทำให้เธอรู้จักความทุกข์มากขึ้น และเรียนรู้ว่า
โลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่เป็นสิ่งที่
คนตาบอดอย่างเธอเผชิญได้โดยง่ายดาย

เพราะโรสมองไม่เห็น
จึงไวนักในเรื่องการจับความรู้สึกของคู่สนทนา
คำพูดส่อเสียดอันปราศจาการกลั่นกรอง
ที่หลุดออกมาจากปากของเพื่อน
ส่งผลให้ โรส รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว
พ่อเคยบอกว่า

การผูกมิตรย่อมดีกว่าการสร้างศัตรู
แต่ในกรณีนี้โรสทนไม่ไหว จริงๆ จึงตอกกลับไปอย่างไม่แคร์

“ขอโทษนะ เราทำตามกฎ”

โรสรู้ว่า คำพูดของเธอคงทำให้เพื่อนคนนั้น ไม่พอใจเอามากๆ
แต่คงไม่มีใครรู้ว่า ในขณะนั้น หัวใจดวงน้อยของเธอ
บอบช้ำยิ่งกว่า

คำก็สิทธิพิเศษ
คำก็ชาติหน้า จะได้เกิดมาตาดีๆเหมือนคนอื่นเขา


คำพูดเหล่านึ้ ยิ่งย้ำให้รู้สึกต่ำต้อย ด้อยค่าลงไปเรื่อยๆ

เมื่อวานก็ทีหนึ่งแล้ว ตอนที่เธอกำลังแกะหนังยางออกจากถุงข้าว
เพื่อนคนหนึ่ง แย่งไปทำ บอกว่า
มันยากเกินไป เราทำให้ดีกว่า ช้า เสียเวลา
เพื่อนหลายคน ไม่เข้าใจโรส ไม่ยอมรับคนพิการ
มองเห็นความพยายามของเธอว่า เป็นเรื่องเสียเวลา

แม้โรสพยายามที่จะไม่คิด
ทำความเข้าใจในข้อจำกัดของตัวเอง
และพยายามช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด
เหมือนที่พ่อ กับ แม่สอน แต่สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า
ตัวเอง “แตกต่างจากคนอื่นอยู่ดี”

โรสไม่รู้ด้วยซ้ำว่า น้ำตาที่รินไหลออกมา
ราวกับทำนบพังนั้น เกิดจากความรู้สึกต่ำต้อย
ที่ตกตะกอนทับถมอยู่ในจิตใจมาเป็นเวลานาน
หรือเกิดจากความโกรธที่คุกรุ่นกันแน่
แต่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใด
ก็ทำให้โรสรู้สึกท้อแท้ และเรี่ยวแรงลดลงเรื่อยๆ

แต่เธอก็ต้องมีชีวิต
เพื่อเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง
และพยายามให้มากขึ้น จึงจะก้าวไปสู่ชัยชนะที่แท้จริงได้


เรียนรู้ที่จะยอมรับ
“โรสต้องรู้จักให้อภัยนะลูก
เราจะไห้คนอื่นมาเข้าใจเราหมดคงไม่ได้
เพราะบางครั้งเราเองยังไม่เข้าใจคนอื่นเลย ....
พ่อไม่ห้ามเลยหากลูกจะโกรธ เพื่อนคนนั้น
แต่หนูต้องไม่ลืมว่า
หากเราเอาแต่โกรธ และ อาฆาตพยาบาท
โรสก็จะไปโรงเรียนอย่างไม่มีความสุข”

“เหตุผลที่พ่อให้โรสไปเรียนร่วมกับคนอื่น
ก็เพื่อให้หนูได้เรียนรู้สิ่งที่เรียกว่า ปัญหา
ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง เป็นแบบนี้
ต่อไป โรสต้องเจอกับเรื่องที่หนักหนากว่านี้อีกเยอะ
พ่อรู้ว่ามันอาจจะทำให้ลูกสาวของพ่อท้อแท้
และเสียใจอยู่บ้าง แต่เมื่อโรสพยายามอย่างเต็มที่
และผ่านมันไปได้ มันจะเป็นผลดีกับตัวโรสเอง “

คำพูดของพ่อน่าคิด
เอาเข้าจริงๆ บางครั้งโรสเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเลยด้วยซ้ำ
นับประสาอะไรจะให้คนมากมายมาเข้าใจโรส

เหตุที่ต้องมานั่งร้องให้ และระบายความในใจ
ต่อหน้า พ่อ แม่อย่างหมดเปลือกเช่นนี้ ก็เพราะ
โรสลืมคิดไปว่า
มนุษย์ ทุกคนมีความแตกต่างกันนั่นเอง

ใช่ .... โรสต่างจากคนอื่น ตรงที่ตาพิการ
แต่จะมีประโยชน์อะไรหากทุกๆวัน
โรสมุ่งคิดถึงแต่ข้อจำกัดของตนเอง
และเอาคำพูด กับการกระทำชองคนอื่น
มาบั่นทอนพลังของตัวเอง ให้รู้สึกแห้งเหี่ยว
หม่นเศร้า สู้หันมาใส่ใจกับความฝันของตัวเอง
ไม่ดีกว่าหรือ

โรสอยากเป็นครูสอนคนตาบอด
เหมือน อาจารย์ณัฐกานต์ ปิมป้อ
คุณครูสอนคนตาบอดที่โรสเคยเรียนด้วยตอนเด็กๆ
และนับถือท่านเหมือนแม่คนที่สอง
อาจารย์ท่านนี้สอนให้โรสมองโลกตามความเป็นจริง
เช่นเดียวกับที่ พ่อ และ แม่สอน

หากวันนี้โรสเอาแต่ท้อถอย ไม่กล้าสู้
และพิสูจน์ตัวเองให้ใครต่อใครเห็นว่า
แม้จะตาพิการ แต่ก็มีความมุ่งมั่นพยายามอย่างล้นเหลือ
ที่จะต่อสู้ คงไม่มีทางแน่ที่จะเดินไปถึงจุดหมายในเร็ววัน

แล้วโรสก็เรียนรู้ที่จะยอมจะยอมรับความจริงในที่สุด

ซึ่งทำให้เธอเรียนรู้ปัญหา และเดินหน้าต่อไปได้
เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า
ไม่มีสิ่งที่หากเพียรพยายามอย่างเต็มที่แล้ว จะทำไม่ได้
แม้ว่าจะต้องใช้ทั้งกำลังกาย กำลังใจ เวลา
และการทุ่มเทมากกว่าคนอื่น เป็นร้อย เท่า พันเท่าก็ตาม

ความพยายามที่มากกว่า

สิ่งใหนที่คนทำไม่ได้ ..... คนทำได้


โรสจำไม่ได้แล้วว่าเคยได้ยินคำพูดประโยคนี้ที่ไหน
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่า
มันส่งผลให้โรสพยายามที่จะใช้ทักษะทั้งหมดที่มีอยู่
มุ่งมั่น และเรียนรู้ทุกอย่างรอบตัว อย่างไม่ย่อท้อ

เริ่มจากการเรียนพิมพ์ดีด ระบบสัมผัส
แบบคนทั่วไปด้วยตัวเอง โดยอาศัยตาข้างซ้าย
ซึ่งมองเห็นได้ แค่ 10 % นั้นให้คุ้มค่า
ซึ่งทุกครั้งที่ครูสั่งรายงาน โรสจะต้องพิมพ์เป็นอักษรเบรลล์ก่อน
จากนั้นจึงนำมาพิมพ์เป็นภาษาปกติอีกที

ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ นั่งจ้องกระดานดำตาแป๋ว
แต่เวลานั่งเรียนหนังสืออยู่ในห้องนอกจากจะจดจ่อ
ตั้งใจฟังครูสอนแล้ว โรสยังมีเครื่องอัดเสียงขนาดเล็ก
คอยอัดเสียงของคุณครู มาเปิดฟัง
เพื่อทำความเข้าใจบทเรียนอีกรอบหนึ่ง

อยากอ่านหนังสือดีๆ เหมือนเพื่อนๆอ่าน
พ่อ กับแม่ ซึ่งสนับสนุนให้โรสเรียนรู้อย่างเต็มที่
ก็ช่วยหาหนังสือ ดีๆที่ตีพิมพ์เป็นอักษรเบรลล์
มาให้อ่านมากมาย เพื่อเพิ่มพูนความรู้ไม่เคยขาด

เห็น ริน น้องสาวสุดที่รัก ขี่จักรยานได้
โรสก็ไม่รอช้า ขอพ่อกับแม่ หัดรถจักรยาน
จนสามารถขี่ไปใหนมาใหนในละแวกบ้านได้
อย่างคล่องแคล่ว แม้ว่าจะล้มลุกคลุกคลาน
และเคยขี่ไปชนรถของเพื่อนบ้านหลายครั้งหลายครา
แต่สุดท้ายก็สามารถขี่จักรยาน
ไปรับลมที่ชายหาดได้สมใจ

โรสอยากเล่นดนตรี แต่ติดที่ไม่มีใครอยากสอน
ไม่เป็นไร
โรสสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้
โดยการใช้ประสาทการได้ยินที่ดีเลิศของตัวเอง
มาเทียบเสียงโน้ต จนทุกคนยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า
ฝีมือการเล่นอิเลคโทน ของโรส ทำได้ดี
ไม่แพ้นักดนตรีมืออาชีพ

เห็นน้องสาวร้องคาราโอเกะ เสียงเพราะ พริ้ง
แม้โรส จะมองหน้าจอไม่เห็น แต่เมื่อเธออยากร้องเพลงบ้าง
พ่อก็ไม่รอช้า รีบหาซีดีมาเปิดให้ฟัง
จนเธอสามารถจดจำ และร้องตามได้ อย่างไม่ผิดเพี้ยน



แม้แต่ภาษาอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อว่า ยากในหมู่นักเรียนด้วยกัน
โรสก็ใช้พลังแห่งความพยายามที่มีอยู่อย่างล้นเหลือ
จดจำคำศัพท์ มากมายไว้ในหัว
และสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่ว

ผลจากความเพียรพยายามที่มีมากกว่าเพื่อนคนอื่นหลายเท่า
ส่งผลให้โรสเป็นเด็กตนบอดคนเดียว
ที่สามารถแต่งกลอนในวันสำคัญต่างๆ
ให้กับโรงเรียนมาโดยตลอด และ
รับหน้าที่ในการอ่านทำนองเสนาะ แทบทุกครั้งไปโดยปริยาย

พร้อมกันนั้นยังมีผู้ใหญ่ใจบุญ ได้เล็งเห็น
และมอบทุนการศึกษาให้กับโรส
หนึ่งในนั้นคือ
กองทุนมูลนิธิคุณอาระริ่น อุทกะพันธุ์

ซึ่งเป็นกองทุนการกุศล
ที่สนับสนุนส่งเสริมเด็กเรียนดี
มีความประพฤติเรียบร้อย
หลังจากทราบว่า โรสเขียนเรื่องราวของตัวเอง ลงในอินเตอร์เน็ต
โดยหวังว่าให้ผู้อ่านได้เข้าใจคนตาบอดมากขึ้น

ชัยชนะที่แท้จริง

ตอนเด็กๆ โรสเคยกลัว แมวมาก
แม่ซึ่งอยากที่จะให้โรสรู้จักเผชิญหน้ากับทุกสิ่ง
จับมือของโรสให้ลองจับ
โรสชั่งใจอยู่นาน .....
ที่สุดพอได้สัมผัส กับขนอันนุ่มนิ่มของมัน
โรสได้เรียนรู้ว่า เมื่อแมวมานอนบนตัก
ความกลัวจึงเปลี่ยนเป็นความเอ็นดู

“ความกลัว คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง
ถ้าไม่ลองทำความรู้จักกับมัน โรสก็จะไม่มีวันหายกลัว
เหมือนความทุกข์ไงลูก
ถ้าเราไม่รู้จักความทุกข์ ไม่เคยเสียใจ ไม่เคยร้องให้
เราจะไม่มีทางรู้เลยว่า ความสุขเวลาที่เราดีใจ
เวลาที่เราหัวเราะเป็นยังไง”
แม่บอก

ถึงวันนี้ โรสเข้าใจในทุกอย่างที่แม่บอกอย่างแจ่มแจ้ง
แม้บางครั้งเวลาต้องอยู่ท่ามกลางสาธารณชน
โรสจะรู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่คิดได้ว่าไม่ไช่เรื่องแปลก
และทำใจยอมรับกับความจริงข้อนี้ได้
สายตาของใครต่อใคร
ก็หาใช่อุปสรรคสำหรับก้าวต่อไปของชีวิต

ดังที่ครั้งหนึ่ง เพื่อนรุ่นน้องแหกปากล้อโรสเสียงดังสนั่น

ยายเด็กตาบอด

แทนที่โรสจะโกรธ เธอกลับยิ้มให้
และใช้คำพูดที่อาจารย์ ณัฐกานต์ เคยสอนตอกกลับไปทันที

เด็กนักเรียนตาดี

เท่านั้นเอง คู่กรณีของเธอก็ถึงกับอึ้ง
พูดไม่ออกไปโดยพลัน

โรสได้เรียนรู้แล้วว่าชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเธอในครั้งนี้
หาใช่การให้ใครต่อใครยอมรับ นับถือ
หรือเล็งเห็นความสามารถของตัวเอง อย่างที่เคยเข้าใจ
แต่ทว่าคือการ ชนะใจตัวเอง ต่างหาก

และที่โรสมีจุดยืนที่แข็งแกร่งได้ในวันนี้
ก็ด้วย แรงแห่งรักของพ่อ กับแม่
ที่มีให้อย่างไม่มีวันหมดนั่นเอง



จบบริบูรณ์

ด้วยแรงแห่งรัก ( 1 ) บททดสอบจากโชคชะตา

ภาพถ่าย เบื้องหลังสารคดี บันทึกหัวใจแกร่ง ในชีวจิต




Create Date : 20 พฤษภาคม 2551
Last Update : 28 พฤษภาคม 2551 12:05:43 น. 9 comments
Counter : 2607 Pageviews.

 


อุปสรรคและปัญหา ทุกคนมีอยู่เป็นประจำ บางคนก็ท้อและปล่อยวาง ถือว่าช่างมัน เดี๋ยวเวลาที่ล่วงไป คงจะดีขึ้นด้วยตัวมันเอง


โดยมองคล้ายกับ ฝนแล้ง น้ำท่วม ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องแก้ไข เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเองตามธรรมชาติของมัน


แต่บางคนจะไม่เคยท้อ จะพยายามค้นหาสิ่งที่ดี ก้าวหน้า ทั้งต่อตนเองและต่อผู้อื่น ทำให้ดีที่สุดเท่าที่สติปัญญาและกำลังทรัพย์จะพอมี


น้องโรส ทำแล้ว คุณพ่อทวีศักดิ์ และคุณแม่ดวงตา ก็ได้ทำแล้ว ...ขอชมเชยครับ


ท่านใดที่เคยรังเกียจคนเป็นอัมพาต คนหูหนวก และคนตาบอด ... อย่ารังเกียจท่านเหล่านั้นเลย ไม่มีใครอยากจะเป็นคนพิเศษแตกต่างจากคนอื่นหรอก ถ้าเลือกได้ ท่านเหล่านั้นก็อยากจะเป็นคนปกติเช่นเดียวกับทุกๆท่าน


โปรดมองพวกเขาด้วยความเข้าใจ และปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นคนปกติคนหนึ่งเถิด เพราะทุกท่านเหล่านั้นก็เป็นคนหนึ่งในสังคมที่อยากจะเป็นคนปกติเท่าเทียมกับตัวท่าน เพียงแต่เขาขาดประสาทสัมผัสบางสิ่งบางอย่างไปเท่านั้น


อยากบอกว่า ทุกคนเคยเป็นอัมพาต เคยหูหนวก และเคยตาบอด ในภพนี้มาแล้วทั้งนั้น


คือเมื่อทุกท่านนอนหลับ


ยุงกัดและดูดเลือดท่าน ท่านก็ไม่รู้ตัว


เสียงอะไรดัง ท่านก็ไม่ได้ยิน


มีเหตุการณ์อะไรในห้อง ท่านก็มองไม่เห็น


ชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอน จะเป็นอะไร หรือจะจากโลกนี้ไปเมื่อใด ก็ไม่มีใครรู้


วันนี้ ควรที่จะมองผู้อื่นและกระทำต่อผู้อื่นแบบเป็นมิตร แบบเข้าใจและให้เกียรติต่อเขา เพื่อความสุขของเขาและความสุขของตนเอง




โดย: yyswim วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:12:13:57 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจ..อืม ทุกคนเลย ถ่ายรูปขึ้นเหมือนกันเลยครับ...


โดย: พี่ต๋อย IP: 58.9.139.209 วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:50:07 น.  

 


ขอเข้ามาแจ้งเพิ่มเติมว่า มีผู้กรุณาอนุเคราะห์ นำบทความทั้งสองตอนของน้องโรส จากนิตยสารชีวจิตนี้ ไปอ่านใส่แผ่นซีดี ณ ศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาพิการ เรียบร้อยแล้ว

คิดว่าคงจะทำก๊อปปี้ส่งต่อไปยังห้องสมุดคนตาพิการ เพื่อให้เด็กตาพิการทั้งหลายได้มีโอกาสยืมไปฟังด้วย

ยินดีกับน้องโรสด้วยครับ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆและน้องๆตาพิการทั่วประเทศ




โดย: yyswim วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:20:26:59 น.  

 



ป้าเป็นพี่สาวคุณสินจ๊ะ
คุณสินถ่ายทอดเรื่องราวของน้องโรสให้ป้าฟัง
ที่เคยถ่ายรูปไว้ก็เอามาให้ดู
ป้าจึงรู้จักน้องโรสมาก่อนในระดับหนึ่ง


เมื่อคอลัมน์บันทึกหัวใจแกร่ง จากนิตยสารชีวจิตนำเสนอเรื่องราวของน้องโรสต่อเนื่องกันสองฉบับ
ป้าก็ได้อ่านหนังสือทันทีที่หนังสือวางแผงด้วยความอนุเคราะห์ของคุณสินเช่นกัน


ครอบครัวของน้องโรสทุกคน
เริ่มจากคุณพ่อ คุณแม่ น้องโรส และน้องริน
ทุกคนคือยอดนักสู้ตัวจริง
เหมาะสมอย่างยิ่งที่คอลัมน์บันทึกหัวใจแกร่งบันทึกเรื่องราวไว้ให้เป็นเกียรติประวัติ


ตลอดเส้นทางที่ผ่านมา
น้องโรสได้พิสูจน์ให้คนรอบข้างเห็นแล้วว่า
ความพิการทางตามิใช่อุปสรรคที่จะก้าวรุดไปข้างหน้าแต่ประการใด


หาดใหญ่วิทยาเป็นโรงเรียนใหญ่
น้องโรสผ่านด่านการสอบเข้ามาเรียนได้นี่คือสิ่งยืนยันในฝีมือ
แต่นี่ถือเป็นเพียงความสำเร็จในระดับต้นเท่านั้น
ทางข้างหน้าที่น้องโรสจะต้องเดินยังมีอีกยาวไกลนัก


เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปเรื่อยๆ
มีสติทุกย่างก้าว ไม่ระแวงแต่ระมัดระวังไม่ประมาท
ป้าเป็นกำลังใจให้กับเส้นทางข้างหน้าของหนู
เดินไปให้ถึงปลายทางที่หนูฝันนะ
เพราะที่นั่นคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ของทุกคนในครอบครัวจ๊ะ





โดย: ยายกุ๊กไก่ วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:08:58 น.  

 


คุณทวีศักดิ์ครับ ....คนข้างบน คือ เจ๊ ของผมครับ

เจ๊ พักอยู่กับคุณแม่ อยู่กันสองคนครับ

คุณพ่อของผมท่านเสียเมื่อปีกลายครับ(ผมเคยเขียนไว้ในบล๊อก)


เจ๊ มีอายุแล้วครับ แต่เธอก็พยายามทำสิ่งที่ดีๆ ให้กับตนเองและสังคม

เสมอ กับ น้องโรส

บอกน้องโรสด้วยว่า ไม่ต้องกลัว เจ๊ของผม ก็ยังมาให้กำลังใจน้องโรส




โดย: yyswim วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:47:23 น.  

 
น้องโรสขา ในโลกใบนี้ คนจิตใจดี และคนจิตใจไม่ดี
ย่อมมีปะปนกันไปนะคะมองโลกอย่างเข้มแข็ง น้องโรสจะเป็นผู้ชนะ และมีความสุขค่ะ

พร้อมกำลังใจมีให้น้องโรสเสมอนะคะ


โดย: นายกุหลาบ วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:06:02 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องโรส

ป้าแอ๊ดตามมาอ่านชีวิตของหนู จากการแนะนำของคุณสิน

ที่กรุณาบอกให้ป้าแอ๊ดทราบว่ามีเด็กที่สู้ชีวิตอย่างหนู อยู่ที่หาดใหญ่

ป้าแอ๊ดเคยมีหลานอยู่ที่หาดใหญ่นี่ 1 คน ค่ะ เป็นหลานทางอินเตอร์เนตค่ะ

เธอเป็นเด็กพิการ เดินไม่ได้เลย ต้องนั่งรถเข็น และไปไหนมาไหนต้องมีคนอุ้มขึ้นรถไป

ป้าเคยมาพบเธอ 1 ครั้ง เมื่อคราวที่ป้าแอ๊ดมาธุระที่หาดใหญ่

ตอนนี้เธอเรียนจบปริญญาตรีเรียบร้อยแล้ว และห่างหายจากการติดต่อป้าไปเพราะการงาน

ป้าแอ๊ดเล่าให้ฟังเพราะอยากบอกหนูว่า ไม่มีสิ่งใดที่จะ
ยากเกินกว่าความสามารถของเราที่จะทำ

ป้าขอเป็นกำลังใจให้หนูได้ทำทุกอย่างที่หนูต้องการ

ป้าทราบ ว่าหนูไม่ย่อท้ออยู่แล้ว หนูมีคุณพ่อ-คุณแม่ และน้อง ที่รักหนู มีคุณสิน มีคุณป้ากุ๊กไก่

และอย่างน้อย มีป้าแอ๊ด เพิ่มมาอีก 1 คนนะคะ






โดย: ป้าเเอ๊ด (addsiripun ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:42:26 น.  

 
ตามมาอ่านต่อค่ะ

น้องโรสโชคดีตรงที่มีครอบครัวที่ดีค่ะ
โดยเฉพาะคุณพ่อที่เข้าใจลูกมาก ๆ

อ่านแล้วประทับใจจริง ๆ ค่ะ


ขอเรียนเพิ่มเติมว่า
ที่โรงเรียนของหลานสาว (ระดับมัธยม)
มีน้องที่สายตาพิการมาร่วมเรียนด้วย
ปีนี้
มีเด็กสายตาพิการเอ็นฯ ติดมหาลัยตั้ง 4 คนแน่ะค่ะ

มี 2 คนสอบตรง
อีก 2 คน ติดจากการเอ็นฯ

มีโทรทัศน์เชิญไปสัมภาษณ์
น่าปลื้มใจ
ที่เป็นเด็กทุ่มเทให้การเรียน
ไม่เหลวไหล
และปล่อยตัวเพราะคิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น

ตาพิการแต่สมองไม่ได้พิการซะหน่อย
จริงไหมคะ

สู้ ๆ นะคะ น้องโรส


โดย: โสดในซอย วันที่: 9 มิถุนายน 2551 เวลา:14:40:20 น.  

 
ขอให้กำลังใจน้องโรสค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่าน และดีใจว่าน้องโรสเข้าใจถึง"ความเป็นตัวเอง"ที่มีความสำคัญอย่างมากทีเดียวค่ะ
ความสำเร็จอยู่ในกำมือของโรส ค่ะ
เชื่อมั่นว่าโรสสัมผัสได้ตลอดเวลาใช่ไหมคะ


โดย: ป้าเก๋ IP: 202.14.117.38 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:23:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนตาพิการ
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




คนตาพิการ

ชื่อจริง นุ่นนิจ ถาวรรัตน์
ชื่อเล่น โรส

ปัจจุบัน อายุ 23 ปี ตาพิการทั้ง 2 ข้าง กำลังเรียนหนังสือ ณ สถาบันราชภัฏ สงขลา คณะ ครุศาสตร์ ปีที่ 3 โปรแกรมภาษาไทย

โรส ชอบเขียนเรื่องราวต่างๆที่ได้ประสบ พิมพ์เป็นตัวอักษรปกติบนคอมพิวเตอร์ แล้วพ่อจึง copy นำมา Post ที่นี่

ข้อความต่างๆส่วนใหญ่เป็น ความคิด
ความเข้าใจ และจินตนาการ บนพื้นฐานของความเป็น คนตาพิการ ของ น้องโรส ทั้งหมด


E-mail คุยกับน้องโรส คนตาพิการ
Your Link HTML Free Code

english version
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2551
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add คนตาพิการ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.